สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเทียฮัวนาโคก็คือสถาปัตยกรรมครับ ทุกอย่างดูมโหฬารอลังการไปหมด ลำพังแค่ขนาดก็น่าทึ่งพออยู่แล้ว พอนักโบราณคดีศึกษาลึกลงไปอีก ก็ยิ่งทึ่งหนักเข้าไปใหญ่กับเทคนิคการก่อสร้างของพวกเขา การตัดหินขนาดใหญ่ เทคนิคการใช้คอนกรีตแบบโบราณเอย ปูนพลาสเตอร์แบบผสมเอย และเขียนแปลนที่ยอดเยี่ยมอดทำให้นักโบราณคดีงุนงงไม่ได้ว่า นี่เป็นผลงานของคนเมื่อหลายพันปีที่แล้วแน่หรือ? พูดถึงเรื่องนี้ก็อดงงไม่ได้นะครับ ว่าทำไมคนโบราณชอบสร้างอะไรที่มันใหญ่โตเกินจำเป็นนัก แล้วไอ้สิ่งที่สร้างขึ้นน่ะมันก็ขัดกับเทคโนโลยีและความเป็นอยู่ของพวกเขา เสียเหลือเกิน แหละดูเหมือนว่าคนโบราณจะเป็นยังงี้กันไปซะหมด เพราะนอกจากเทียฮัวนาโคแล้ว สิ่งก่อสร้างในอียิปต์ เกาะมัลต้า หรือส่วนอื่นๆในเปรู ก็ล้วนแต่โอ่อ่าอลังการไปเหมือนๆกันหมดซะอย่างนั้น
นอกจากตัวเทียฮัวนาโคเองแล้ว โบราณสถานอีกหลายแห่งในประเทศโบลิเวียล้วนแต่ชี้ให้เห็นว่าได้รับอิทธิพลจาก เทียฮัวนาโค เช่นโบราณสถานทางตอนใต้ของคุซโกที่เป็นที่ตั้งของเมืองแห่งพระเจ้าโบราณ Puma Punku ซึ่งสวยงามและโอ่อ่าเอามากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมีขนาดใหญ่โตเสียจนอดคิดไม่ได้ว่าคนงานที่สร้างเมืองแห่งนี้ น่าจะเป็นยักษ์เสียกระมัง เพราะหินแต่ละก้อน เสาแต่ละต้นมันใหญ่โตเสียจนเหลือเชื่อว่าลำพังแรงงานมนุษย์จะจัดการกับมัน ได้ เสาบางต้นมีขนาดร้อยกว่าตัน บางต้นมากกว่านั้น แถมแปลนของวิหารที่นั่นก็ดูทันสมัยต่างไปจากวิหารของคนโบราณเสียด้วยนะ
ยุคนั้นมีแต่สิ่งปลูกสร้างที่คนสมัยนั้นไม่น่าจะสร้างขึ้นมาได้ ก็จริงน่ะสิ เพราะว่าพวกที่สร้างไม่ใช่คนบนโลกเราครับ เอาง่ายๆ ดูการตัดหินก็แล้วกัน เครื่องมือโบราณที่เป็นสกัดที่ทำด้วยหินเเข็ง จะเจาะหินยังไงถึงได้ออกมาเรียบแบบเอาไม้บรรทัดเส้นผมทาบได้ระนาบและฉากเป๊ะขนาดนั้น (ดูงานจากผนังโรงศพหินแกรนิตและผนังสุสานที่อียิปต์เป็นต้น) ไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าไม่ได้ตัดมันด้วยเทคโนโลยีอย่างแสงเรเซอร์ หรือ CNC
ตอบลบ